NEWS

จิตวิญญาณ คัมภีร์แห่งความเร้นลับ "พระสูตรที่ 3 เพ่งสายน้ำ " | Sabaidee Journey Quote EP 8

01 Mar 2021
พระสูตรที่ 3 “เพ่งสายน้ำ “

คัมภีร์แห่งความเร้นลับ/ ( the book of the secrets )
ว่าด้วยการทำสมาธิ 112 วิธีของพระศิวะ
“ ณ ขอบบ่อน้ำอันลึกล้ำ จงเพ่งแน่วลงไปยังก้นบึ้งของมัน จวบจนกระทั่ง ปาฏิหาริย์บังเกิด “

จงหยั่งมองไปในบ่อน้ำลึก ภาพของบ่อน้ำจะฉายสะท้อนอยู่ในตัวเธอ จงลืมความคิดคำนึงให้สิ้นหยุดการครุ่นคิดโดยสิ้นเชิง เพียงมองชำแรกลงสู่ก้นบึ้งเรื่อยไปไม่หยุดยั้ง ทุกวันนี้มีผู้กล่าวว่าจิตมีความลุ่มลึกของตัวมันเองเฉกเช่นบ่อน้ำ ปัจจุบันนี้ โลกตะวันตกกำลังขะมักเขม้นอยู่กับการพัฒนาจิตวิทยาในทางลึก พวกเขากล่าวว่าจิตนั้นไม่ใช่แต่เฉพาะเปิดนอกอันผิวเผิน มันเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น กล่าวคือแฝงด้วยความลุ่มลึกอยู่มากมาย
จงเพ่งมองไปในบ่อน้ำด้วยปราศจากความคิดคำนึง ความลุ่มลึกนั้นจะส่องสะท้อนอยู่ในตัวเธอบ่อน้ำจะกลับกลายเป็นเพียงสัญลักษณ์ภายนอกของความลุ่มลึกภายในเท่านั้น จงเพ่งมองต่อไป 

”จวบจนกระทั่ง ปาฏิหาริย์บังเกิด” จากจนกระทั่งเธอรู้สึกเปี่ยมล้นในความอัศจรรย์ใจ

อย่าได้หยุดยั้งก่อนถึงชั่วขณะนี้ จงเพ่งมองต่อไปเรื่อยๆ อย่าหยุดยั้ง วันแล้ววันเล่า เดือนแล้วเดือนเล่า เพียงไปยังบ่อน้ำ เพ่งลึกลงไปโดยปราศจากความคิดว่ายเวียนในจิตใจ เพียงเพ่งพินิจไปในก้นบึ้ง สำรวมใจภาวนาในความลุ่มลึก กลายเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับมัน เพ่งพิจารณาไปเรื่อย ๆอย่าหยุดยั้ง วันหนึ่ง ความคิดของเธอก็จะปลาสนาการไป มันสามารถเกิดขึ้นได้ทุกขณ จู่ๆเธอจะรู้สึกว่าเธอมีบ่อน้ำ ความลุ่มลึกแบบเดียวกันนี้ในตัวเธอ และแล้ว ความรู้สึกอันประหลาดล้ำก็จะบังเกิดแก่เธอ เธอจะรู้สึกอัศจรรย์ใจเต็มเปี่ยม

จ่วงจื่อกำลังข้ามสะพานมาพร้อมกับเหล่าจื่อ อาจารย์ของท่าน เหล่าจื่อได้กล่าวแก่จวงจื่อว่า “จงหยุดอยู่ที่นี่แหละ แล้วเฝ้ามองจากสะพานลงไปที่ใส่น้ำเรื่อยไปจนกระทั่งใส่น้ำหยุดไหล และสะพานเริ่มไหลหลาก เมื่อนั้นแหละจึงค่อยมาหาเรา” สายน้ำนั้นไหลเรื่อยไปไม่ขาดระยะ สะพานนั่นสิที่ไม่เคยไหลหลาก 

หลายเดือนผ่านไป ท่านได้แต่นั่งอยู่บนสะพาน เฝ้ามองลงมาจวบจนขณะใดที่ใส่น้ำหยุดนิ่ง และตัวสะพานไหลหลาก เมื่อนั้นแหละฉันจึงกลับไปหาอาจารย์

แล้ววันหนึ่ง สิ่งนี้ก็อุบัติขึ้น สายน้ำหยุดนิ่ง พร้อมกันนั้น สะพานก็เริ่มไหลหลาก มันเกิดขึ้นได้อย่างไรกัน หากความคิดดับสนิทไม่เหลือ เมื่อนั้นสิ่งใดก็ตามล้วนเกิด ได้ทั้งสิ้นเพราะจริงๆ แล้วเป็นอุปาทานความยึดมั่นของความคิดนั่นเอง ที่ว่าสายน้ำนั้นหลั่งไหลแต่สะพานสถิตอยู่กับที่

ไอน์สไตน์กล่าวว่า สรรพสิ่งล้วนสัมพันธ์กันทั้งสิ้น ถ้าเธอกำลังโดยสารมาบหากมีรถไฟสองขบวนหรือยานอวกาศสองลำแล่นคู่มาด้วยค่ะตามความเร็วเท่าๆกัน ในห้วงอวกาศ เธอจะไม่มีวันรู้สึกเลยว่ามันกำลังแล่นอยู่ ที่เธอรู้สึกได้ว่ารถไฟกำลังแล่นอยู่นั้น เพราะเธอเธอแลเห็นสิ่งต่างๆข้างทางหยุดอยู่กับที่ หากไม่มีสิ่งใดเลย เช่น หากต้นไม้เคลื่อนตัวไปในทิศทางเดียวกับการด้วยความเร็วเท่าๆ กันนี้ เธอจะรู้สึกว่าหยุดอยู่กับที่ หรือเมื่อรถไฟแล่นสวนมาในทิศทางตรงกันข้าม อัตราความเร็วของเธอจะเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ เธอจะรู้สึกว่าขบวนรถไฟของเธอนั้นแล่นฉิวทีเดียว

มันไม่ได้เล่นเร็วขึ้นหรอก มันคือรถไฟขบวนเดิมที่แล่นด้วยความเร็วเท่าเก่า ทว่าขบวนรถไฟที่แล่นสวนมาในทิศทางตรงกันข้าม ให้ความรู้สึกแก่เธอว่ามีความเร็วเป็นทบทวี หากความเร็วเป็นสัดส่วนที่สัมพันธ์กันแล้วถ้าเช่นนั้น ความคิดที่ว่าสายน้ำหลั่งไหลนั้น และสะพานสถิตอยู่กับที่ เป็นเพียงทิฏฐิอันฝังหัวของจิตใจเท่านั้น

เมื่อสำรวมใจภาวนาไปเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่อง จวงจื่อก็เริ่มตระหนักว่า สรรพสิ่งรวมสัมพันธ์กันทั้งสิ้น ที่สายน้ำไหลหลั่งเพราะเธอเข้าใจไปว่า สะพานนั้นสถิตนิ่งอยู่กับที่ ลึกลงไปนั้น สะพานก็ไหลหลากอยู่เช่นเดียวกัน ในโลกนี้ไม่มีสิ่งใดหรอกที่นิ่งอยู่กับที่ มีอะตอมรวมไปถึงอีเล็กตรอนกำลังโลดแล่นอยู่ไปมา ภายในสะพานนั้นมีความเคลื่อนไหวอย่างไม่หยุดยั้ง สรรพสิ่งมีการไหลเวียนอยู่ตลอดเวลา สะพานเองก็มีการไหลหลากเช่นเดียวกัน
เป็นไปได้ว่าจวงจื่ออาจจะหยั่งเห็นถึงโครงสร้างทางอะตอมของสะพานเป็นแน่ ทุกวันนี้มี ผู้กล่าวว่าผนังที่ดูประหนึ่งว่าอยู่ที่นี้ หาได้นิ่งอยู่กับที่ไม่ ณ จุดนั้นมีความเคลื่อนไหวตลอดเวลา ทุกๆ อนุภาคของอิเล็กตรอนกำลังโลดแล่นไปมาไม่หยุดยั้ง ทว่าเป็นความเคลื่อนไหวที่รวดเร็วจนเธอไม่อาจแลเห็นได้ ด้วยเหตุนี้เอง เธอจึงรู้สึกราวกับว่ามันอยู่สถิตอยู่กับที่

หากพัดลมเครื่องนี้ค่อย ๆ หมุนเร็วขึ้นๆ ทุกขณะ เธอจะไม่สามารถเห็นใบพัดหรือช่องว่างของมันได้ เธอจะไม่มีวันเห็นสิ่งนี้เลย และหากมันหมุนไปด้วยความเร็วแสง เธอจะแลเห็นผลแผ่นกลมๆแผ่นหนึ่งที่สถิตนิ่งอยู่กับที่ ไม่มีสิ่งใดเคลื่อนไหว ณ จุดนั้น เพราะเหตุว่านัยน์ตาไม่อาจจับความเคลื่อนไหวที่รวดเร็วเช่นนั้นได้

ฉะนั้น จวงจื่อคงจะได้เห็นถึงโครงสร้างทางอะตอมของสะพานสักชั่วแวบหนึ่งเป็นแน่ ท่านเฝ้ารอจนกระทั่งทิฎฐอุปทานได้เลือนหายไป เมื่อนั้น ท่านก็แลเห็นสะพานไหลตัวอย่างเชี่ยวกราก จนกระทั่งสายน้ำมีสภาพหยุดนิ่งเลยทีเดียว เมื่อเปรียบเทียบกับมัน ท่านรีบรุดไปหาเหล่าจื่อ และเหล่าจื่อก็กล่าวกับท่านว่า “เอาละ จงอย่าถามอะไรเราเลย สิ่งนั้นได้บังเกิดแก่เจ้าแล้ว” มีสิ่งใดเกิดขึ้นหรือ ก็เกิดสภาวะจิตที่ว่างเปล่าขึ้นนะสิ

อุบายวิธี “ ณ ขอบบ่อน้ำอันลึกล้ำ จงเพ่งแน่วลงไปยังก้นบึ้งของมัน จวบจนกระทั่ง ปาฏิหาริย์บังเกิด” ยามใดที่เธอรู้สึกอัศจรรย์ใจเต็มเปี่ยม ยามใดที่ความเร้นลับจู่โจมก็หาตัวเธอ ยามใดที่ความคิดจิตใจดับสลาย มีเพียงความเร้นลับดำรงอยู่ หรือสื่อแห่งความเร้นลับ เมื่อนั้นแหละ เธอยังมีสมรรถนะที่จะรู้ซึ้งถึงตัวเธอเองได้

โปรดติดตาม พระสูตรต่อไป ที่นี่
คัมภีร์แห่งความเร้นลับ 2
The book of the secrets 
 ( หน้า 146-149)
Sabaidee Journey Quote No.8
#sabaideejourneyquote


สนใจข้อมูลเพิ่มเติมติดตามที่
Facebook Group : Sabaidee Spiritual
.
https://web.facebook.com/groups/496920240982782/
.
ติดตามเราได้ตามช่องทางต่างๆ
Website : http://sabaideesuccess.com/
Youtube Chanel : https://www.youtube.com/channel/UCJvjDwHutZkoTTeR-6XG7xw
Facebook Fanpage : fb.me/SabaideeSuccess