NEWS

จิตวิญญาณ ภควัทคีตา "ภาวะ ไร้การกระทำ" | Sabaidee Journey Quote EP 5

19 Feb 2021
#ภาวะ_ไร้การกระทำ
#ผู้หยั่งถึงความสงบ

คือผู้ทีละกามคุณทั้งหลายได้
พ้นจากความใคร่ความอยากไม่มีตัวเรา ของเรา
ผู้ท่องไปในโลกโดยการละความใคร่ในอดีตเสียได้

ไม่ให้ความอยากใหม่ๆ รุกรานเข้ามา ไม่เป็นทาสของ”ความเป็นฉัน” และ “ความเป็นของฉัน”

เขาผู้นั้นย่อมพ้นจากพันธนาการทั้งปวง ขลุ่ยวิเศษในวิญญาณของเขาย่อมกล่อมความสงบให้ติดตามเขาไปในทุกที่

สูตรความสงบที่ภควัทคีตานี้กล่าวถึง เป็นสิ่งที่ผู้เลิกละหรือนักบวชผู้พ้นแล้วจากหน้าที่ทางโลกมักนำไปอ้างถึง ผู้สันโดษแสวงหาความสงบด้วยการดูแลตนเองน้อยที่สุด ละวางสินทรัพย์ ยังจิตอยู่ด้วยไฟฌานปัญญา ไม่ปล่อยให้เมล็ดพันธุ์ความใคร่หยั่งรากได้อีก เมื่อเลิกละแล้วอย่างสมบูรณ์ฉันยอมตัดขาดจาก”ความเป็นฉัน “ และ” ความเป็นของฉัน” ที่หวังการครอบครองแค่ชั่วครู่ช่วยยาม

ความสงบเป็นสิ่งแรกที่ได้ เมื่อมนุษย์พ้นจากความอยากทั้งปวง สำหรับผู้สันโดษในสำนัก ญาณโยคะ แล้วนั้น ท่านมีหลักในการปฏิบัติว่า ความอยากแม้ในเรื่องที่เกี่ยวกับสุขภาพและความสบายทั่วๆไปที่คนส่วนใหญ่เห็นว่าดี ท่านกลับเห็นว่าสิ่งเหล่านี้เป็นที่มาของความชั่ว ความใคร่เกิดจากการสัมพันธ์ ทำให้ต้องเวียนวนเข้า-ออกประตูแห่งการเกิดใหม่ไปอย่างไม่จบสิ้น เพราะความอยากหนึ่งนำไปสู่อีกหนึ่งความอยาก - หลงวนอยู่ในเขาวงกตความคลั่งไคล้อย่างไม่มีสิ้นสุด

เมื่อบุคคลตายไปด้วยอย่างละความอยากได้ไม่หมด เขาต้องกลับมาเกิดในโลกอีก อนาคาริกจึงเลิกละไม่เฉพาะแต่ความใคร่ที่รัดรึงวิญญาณไว้กับกามคุณอย่างไม่รู้อิ่มเท่านั้น แต่ยังเลิกละจากความอยากดี (จริตฝ่ายดีและความมุ่งหวังทางจิตวิญญาณที่ไร้อหังการ และไม่หวังผลประโยชน์อย่างเห็นแก่ตัว กระทำเพื่อให้พระเจ้าทรงพอพระทัยเท่านั้น ความอยากนี้เป็นความอยากที่ปราศจากความใคร่ไม่ส่งผลให้มีกรรมผูกพัน ) ที่อาจนำเขาไปพัวพันกับโลกอีกด้วย

ในการขจัดความอยากที่ติดมาจากอดีต ไม่ให้มันลุกลามเหมือนรากเหง้าของมะเร็ง ที่จะมารุมเร้าความสงบ อนาคาริกจึงต้องป้องกันไม่ให้ความอยากใหม่ๆ เกิดขึ้นด้วยการคิด และกระทำอย่างเหมาะสม เขาต้องตื่นตัว รักษาไฟญานปัญญาอันศักดิ์สิทธิ์ให้ลุกโชนอยู่เสมอ เขาต้องเรียนรู้ที่จะแยกวิญญาณจากอหังการและนี่เป็นวิธีสร้างภูมิต้านทานต่อมายาได้อย่างดีที่สุด ผู้ที่สามารถแยกจิตแยกกายได้ตามที่ต้องการ ย่อมเห็นความแตกต่างระหว่างวิญญาณบริสุทธิ์อันเป็นพระฉายาแห่งพระเจ้า กับ วิญญาณที่เป็นทาสของกายหรืออหังการ

อนาคาริกและผู้มีญาณปัญญาจึงฝึกตน ไม่ให้หลงคิดว่า วิญญานเรา คือสิ่งเดียวกับ “ความเป็นฉัน “ที่มาพร้อมกับความไคร่ที่จะนำไปสู่การเกิดใหม่อยู่ร่ำไป เมื่อพ้นแล้วจากอหังการและความทุกข์ที่จะติดตามมา หมดความยึดมั่นกับชีวิตโลกีย์ บุคคลย่อมเข้าถึงความสงบอันยั่งยืนซึ่งเป็นสิทธิที่เขามีมาแต่กำเนิด

สำหรับผู้ครองเรือนในยุคสมัยใหม่นี้ ที่ต้องการทำทางหน้าที่ทางโลกไปพร้อมพร้อมกับแสวงหาพระเจ้านั้น กฤษณะสอนว่า ผู้ไม่กระทำหน้าที่ไม่ใช่ผู้เลิกละ ไม่ใช่โยคีที่รวมกับพระเจ้า เพราะถ้าแค่ไม่กระทำ บุคคลก็ไม่อาจไปถึงความสมบูรณ์ ไม่ถึงภาวะไร้การกระทำ

ทั้งอนาคาริกและผู้ครองเรือนต้องเรียนรู้ที่จะกระทำการงานอย่างตื่นตัว 
อย่างไม่หวังผลของการกระทำนั้น

ผู้ไม่หวังผลแห่งการกระทำ กระทำเพื่อพระเจ้าเท่านั้น คือผู้เลิกละและเป็นโยคีด้วย เค้าเป็นผู้เลิกละเพราะเค้าดับความใคร่ดี ที่จะได้ผลประโยชน์จากการกระทำ

เขาคือโยคีผู้เป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้าเพราะเขาทำการงานเพียงเพื่อให้พระเจ้าพอพระทัยเท่านั้น

ผู้ภักดีสามารถดูแลเอาใจใส่สุขภาพ ครอบครัวและธุรกิจของตน แต่จิตใจเค้าก็ยังสามารถเลิกละได้ เขาบอกตัวเองว่า “ฉันไม่ได้สร้างกายนี้ ไม่ได้สร้างโลกนี้แล้วฉันจะไปยึดอยู่กับมันทำไม ฉันทำหน้าที่ทางโลกเพื่อครอบครัว เพื่อคนอื่น เพราะพระเจ้าประทานการงานนั้นมาให้ ฉันจะภาวนาอย่างลึกซึ้ง และแสดงบทบาทชั่วคราวนี้เพื่อให้พระองค์พอพระทัย” ผู้เลิกละภายในเช่นนี้ก็เป็นโยคีเช่นกัน เพราะเขาก้าวไปสู่ความเป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้าตลอดเวลาด้วยการทำสมาธิภาวนาและกระทำสิ่งที่ถูกต้อง
บุคคลสามารถพบความสงบได้ ด้วยการอยู่ในโลก แต่ไม่เป็นของโลกซึ่งเป็นสิ่งที่ทำได้ยาก ทว่าทำได้โดยเจตจำนงอันมั่นคง การละเลิกภายนอก การหนีไปจากความวุ่นวายทางโลก การดับความใคร่ด้วยญานปัญญา และการถอนตนจากอารมณ์ที่เย้ายวน เป็นวิธีที่เหมาะแก่ธรรมชาติของผู้ภักดีจำนวนหนึ่ง

โยคีผู้ครองเรือน ที่เคลื่อนไหวไปมาอยู่ท่ามกลางผัสสวัตถุ ต้องปลดปล่อยตนให้ผลจากความใคร่ภายใน ที่รัดรึงยิ่งกว่าความเย้ายวนของโลกภายนอก ผู้เลิกละจึงต้องถอนตน ไม่เข้าไปพัวพันอยู่ในป่าวัตถุ พร้อมๆ กับปลดปล่อยตนจากความใคร่ในสิ่งที่ได้เลิกละไปแล้ว เมื่อนี้และเมื่อนี้เท่านั้นที่บุคคลจะเข้าถึงความสงบได้ ไม่ว่าผู้ครองเรือนหรืออนาคาริก ไม่ว่าจะอยู่รอดในโลกหรือป่าวิเวก

เป้าหมายเดียวของโยคี ไม่ว่าทำงานอยู่ในโลก หรือนั่งเงียบ ๆ อยู่ในป่าคือการนำความสงบแห่งวิญญาณที่สูญหาย วิญญาณที่ไม่รู้จักบรมวิญญาณให้กลับคืนมา บุคคลผู้พ้นแล้วจากอหังการ พ้นแล้วจากความอยากทั้งปวงคือ ผู้ที่หยั่งรู้รู้เป้าหมายนี้

#ภควัทคีตา

บทที่ 2 โศลกที่ 71 หน้า 344-346
Sabaidee Journey Quote No.5

สนใจข้อมูลเพิ่มเติมติดตามที่
Facebook Group : Sabaidee Spiritual
.
https://web.facebook.com/groups/496920240982782/
.
ติดตามเราได้ตามช่องทางต่างๆ
Website : http://sabaideesuccess.com/
Youtube Chanel : https://www.youtube.com/channel/UCJvjDwHutZkoTTeR-6XG7xw
Facebook Fanpage : fb.me/SabaideeSuccess

#sabaideejourneyquote