NEWS

จิตวิญญาณ คัมภีร์แห่งความเร้นลับ "โลกของตันตระ" | Sabaidee Journey Quote EP 4

15 Feb 2021

คัมภีร์แห่งความเร้นลับ
บทที่ 1 โลกของตันตระ

พระสูตร


เทวีทรงมีปุจฉาว่า :
โอ้ พระศิวะ อันใดคือสัจธรรมของพระองค์
จักรวาลอันเปี่ยมล้นด้วยความมหัศจรรย์นี้คือสิ่งใด
ต้นกำเนิดของจักรวาลนี้คือสิ่งใดใครคือผู้ที่สถิตอยู่ ณ ใจกลางกงล้อธรรมนี้
อันใดคือชีวิตที่อยู่เหนือรูปกายซึ่งเข้าสถิตอยู่ในรูปกายต่างๆ
เราจะบรรลุถึงสิ่งนี้อย่างบริบูรณ์โดยอยู่เหนือกาลเทศะ นาม และบัญญัติได้ฉันใด

ขอได้โปรดประทานความกระจ่าง
ให้หม่อมฉันหมดสิ่งข้อกลางขาด้วยเถิด 

.........

จุดเริ่มต้นของคัมภีร์ วิชญานไภรวตันตระ หรือ คัมภีร์แห่งความเร้นลับ ( the book of the secrets )ว่าด้วยการทำสมาธิ 112 วิธีของพระศิวะ
เกิดจาก พระนางเทวี วิสัชนา พระศิวะ เป็นคัมภีร์เก่าแก่ กว่า 5,000 ปี ทุกพระสูตรในตันตระล้วนเป็นบทสนทนาที่เกิดขึ้นระหว่างพระศิวะกับพระเทวี

เมื่อเหตุนี้ภาษาที่ใช้จึงเป็นภาษารัก ศิษย์จะต้องมีมุมมองที่เปี่ยมด้วยความรัก ตันตระกล่าวว่า ผู้เป็นศิษย์นั้นดำรงอยู่ในสถานะที่พร้อมจะเป็นผู้รับ ฉะนั้นศิษย์ต้องเปี่ยมด้วยอาการพร้อมที่จะรับแบบสตรีเพศเท่านั้น ผลลัพธ์บางอย่างจึงอาจเกิดขึ้นได้ การเป็นศิษย์นั้นไม่จำเป็นว่าเธอจะต้องเป็นผู้หญิง แต่ที่จำเป็นคือเธอจะต้องอาศัยมุมมองพร้อมที่จะโอนอ่อนผ่อนตามของสตรีเพศ ว่าเทวีทรงมีปุจฉานั้นหมายถึงว่าทรงมีปุจฉาจากมุมมองของสตรีเพศนั่นเอง

จิตแบบสตรีเพศหมายถึงการพร้อมที่จะรับ เป็นการยอมรับอย่างหมดจด ยอมศิโรราบและความรัก ศิษย์จำต้องอาศัยภาวะจิตแบบสตรีเพศ เพราะ หาไม่แล้วเขาจะไม่สามารถเรียนรู้สิ่งใดได้เลย]

ภาวะพร้อมจะเป็นผู้รับของสตรีเพศเปรียบประดุจครรภ์มารดาที่พร้อมจะรองรับในส่วนลึกของจิตใจ ผู้หญิงนั้นไม่เพียงจะยอมรับสิ่งต่างๆเท่านั้น ยามใดที่เธอยอมรับ สิ่งนั้นยังกลายมาเป็นหนึ่งเดียวกับตัวเธออีกด้วย
และนั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมข้อความในต่างๆจึงถูกลิขิตไว้ด้วยภาษารัก 
ภาษามีสองแบบคือภาษาแบบตรรกะและภาษารักภาษาตรรกะนั้นเต็มไปด้วยความก้าวร้าวด้วยข้อโต้แย้งและรุนแรง ฉันจะเริ่มก้าวก่ายความคิดของเธอพยายามกล่อมเธอชักจูงและครอบงำแนวคิดฝแสดงให้เห็นว่าข้อพิสูจน์ของฉันถูกต้อง ส่วนของเธอนั้นผิดภาษาตรรกะยึดเอาแบบตนเองเป็นศูนย์กลางของทุกสิ่งทุกอย่าง ฉันหาได้ใส่ใจตัวเธอไม่ ฉันใส่ใจกับอัตตาของฉันเองต่างหากอัตตาของฉันย่อมถูกต้องเสมอ

ภาษารักแตกต่างจากภาษาแบบตรรกะโดยสิ้นเชิง 

ฉันไม่สนใจอัตตาของฉัน สิ่งที่ฉันสนใจคือตัวเธอฉันไม่สนใจว่าจะต้องพิสูจน์สิ่งนั้นสิ่งนี้เพื่อสร้างเสริมอัตตาให้มากขึ้น ฉันมุ่งแต่จะให้ความอนุเคราะห์แก่เธอ เป็นความเมตตาที่จะมุ่งเกื้อหนุนให้เธอเติบโตยิ่งขึ้น ช่วยให้เธอปรับเปลี่ยนตนเองเพื่อเกิดใหม่อีกครั้งหนึ่ง

จงรำลึกอยู่เสมอว่ายามใดที่เธอจมอยู่ในห้วงรัก ความคิดของเธอจะหยุดนิ่งลงโดยสิ้นเชิง ไร้ซึ่งอดีตการ ทุกสิ่งทุกอย่างมีเพียงปัจจุบันขณะเท่านั้น ยามที่เธอตกอยู่ในห้วงรัก ห้วงเวลาของเธอยังมีแต่ปัจจุบันเพียงอย่างเดียว เวลานี้ก็คือทุกสิ่งทุกอย่างไร้ซึ่งอดีตไร้ซึ่งอนาคต

ตันตระไม่ใช่หลักปรัชญาแต่เป็นเรื่องของภาวะการดำรงอยู่ พระเป็นเจ้าไม่ทรงตอบปุจฉา เมื่อนางเทวีทูลถามว่า “ ข้าแต่พระเป็นเจ้า อันใดคือสัจธรรมของพระองค์” แต่ตรงข้าม กลับจะประทานอุบายวิธีให้แทน 

ในแง่ของตันตระ การปฎิบัติคือกิริยาอันรอบรู้นั่นเองหาได้มีการรอบรู้ในแง่อื่นไม่ หากว่าเธอไม่ลงมือทำอะไรบางอย่าง เธอจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง หากเธอไม่หัดเปลี่ยนมุมมองด้วยทัศนะแบบใหม่หรือลองเข้าหามิติอื่นๆที่ผิดแผกจากเดิมเสียบ้าง แทนที่จะเป็นสติปัญญาเพียงสถานสถานเดียว เช่นนั้นแล้วเธอยังไม่พบคำตอบใดๆทั้งสิ้น

ตันตระจะบอกว่าทำอย่างไรจึงจะเข้าถึงการอย่างรู้ได้ทำอย่างไรจึงจะมองเห็นและเกิดนิมิตขึ้น เมื่อใดมีนิมิตเกิดขึ้น เมื่อนั้นย่อมมีคำตอบเองตันตระ จะไม่ให้คำตอบแก่เธอแต่จะให้อุบายวิธีในการเข้าถึงคำตอบนั้นแทน
คัมภีร์ วิชญานไภรวตันตระ 

หมายถึงอุบายวิธีแห่งการก้าวล่วงผลจิตสำนึก พวกเราล้วนแต่ขาดสติฉะนั้นหลักคำสอนในทุกๆศาสนาจึงมุ่งที่ว่าทำอย่างไรจึงจะพ้นจากความขาดสติ ทำอย่างไรจึงจะสามารถดำรงสติอยู่ได้

แต่ตันตระกล่าวไว้ว่าทั้งความไร้สติและความมีสติเป็นเรื่องของทวิภาวะทั้งสิ้น หากเธอก้าวจากภาวะไร้สติสู่ภาวะที่มีสตินั่นเท่ากับว่าเธอกำลังก้าวจากทวิภาวะแบบหนึ่งไปสู่ทวิภาวะอีกแบบนึงนั่นเอง ฉะนั้นจงก้าวให้พ้นจากภาวะทั้งสองอย่างนี้เสีย

ทั้งนี้เพราะหากเธอยังไปไม่พ้นจากสองอย่างนี้แล้วเธอจะไม่มีวันเข้าถึงปรมัตถสัจจะได้เลย ดังนั้นอย่าได้จมอยู่กับทั้งภาวะไร้สติหรือภาวะที่มีสตินี้อยู่เลย 

จงก้าวให้พ้นจากทั้งสองอย่างนี้เหลือเพียงการดำรงอยู่ล้วนๆเท่านั้น จงอย่าเป็นทั้งภาวะไร้สติหรือภาวะที่มีสติ จงดำรงอยู่เพียงอย่างเดียวนี่คือการก้าวล่วงจากจากคำสอนทุกชนิด

พระศิวะได้ให้คำตอบแก่พระนางเทวี เป็นอุบายวิธี112 วิธีที่สมบูรณ์แบบอยู่ในตัว ซึ่งได้ประมวลเอาความเป็นไปได้ตลอดจนแนวทางการชำระจิตใจให้บริสุทธิ์และการดำรงค์อยู่เหนือจิตใจทั้งหมดเข้าไว้ด้วยกัน
วิธีการทำสมาธิถึง 112 วิธีนี้ประกอบเข้าด้วยกันเป็นศาสตร์แห่งการปรับเปลี่ยนสภาพจิตใจอันสมบูรณ์

วิธีการเหล่านี้มิได้เป็นของศาสนาใดทั้งสิ้นทุกคนสามารถปฏิบัติได้โดยไม่จำเป็นต้องละทิ้งศาสนาของตน วิธีการนี้จะช่วยให้บุคคลเหล่านั้นสมปรารถนาไม่ว่าพวกเขาจะอยู่แห่งหนใด มันจะเป็นประโยชน์ต่อผู้คนเหล่านั่น ไม่ว่าพวกเขาจะเลือกเดินบนหนทางใดก็ตามลองเลือกอุบายวิธีที่เหมาะสมกับเธอ 

จากนั้นทุ่มเทพลังทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ลงไปกับวิธีการนั้นแล้วเธอจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

อาจกล่าวว่าได้ว่าเธอไม่อาจเปลี่ยนแปลงผู้ใดได้ เว้นแต่เธอจะหยิบยื่นวิธีการในการเปลี่ยนแปลงที่แท้จริงแก่เขา

ลำพังการเทศนาเพียงอย่างเดียวไม่อาจเปลี่ยนแปลงสิ่งใดได้ 
ขอให้เธอลองเล่นกับวิธีการเหล่านี้ 

ฉันพูดว่าเล่นเพราะว่าเธอไม่ควรเคร่งเครียดจนเกินไปขณะที่เธอเล่นอยู่นั้นจิตใจเธอจะเปิดกว้างกว่าปกติ ลองหยิบยกมาซักหนึ่งวิธี เล่นกับมันอย่างน้อยสามวันถ้าเธอรู้สึกว่ามีอารมณ์ร่วมและสุขสบายอย่างเห็นได้ชัด หรือรู้สึกอย่างถ่องแท้ว่านี่คือวิธีการสำหรับเธอ

เมื่อนั้นจงเอาจริงเอาจังกับมัน ลืมวิธีการอย่างอื่นทั้งหมด อย่าไปเล่นกับวิธีการอื่นๆอีกจงปักหลักอยู่กับวิธีการนี้อย่างน้อยสามเดือน ปาฏิหาริย์อาจเกิดขึ้นได้เงื่อนไขเพียงอย่างเดียวก็คืออุบายวิธีนี้จะต้องเป็นของเธอเท่านั้น เพราะหากไม่ใช่ของเธอแล้วยาอมไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นเลย

เธออาจจะคลุกอยู่กับวิธีการนั้นชั่วชีวิต แต่จะไม่เกิดมรรคผลใดๆทั้งสิ้น แต่หากใช้วิธีการนั้นแล้วละก็ เพียงแค่ 3 นาทีก็เหลือเฟือแล้ว

พระศิวะทรงเสนอแนะอุบายวิธีไว้ถึง 112 ประการซึ่งได้ประมวลเอาวิธีการทุกชนิดเท่าที่มีอยู่เข้าด้วยกัน ถ้าไม่มีวิธีการไหนที่สอดคล้องหรือทำให้เกิดความรู้สึกว่าเป็นวิธีการของเธอแล้วละก็ คงไม่หลงเหลือวิธีการใดไว้ให้เธออีกแล้ว 

เช่นนั้นขอให้เธอลืมเรื่องจิตวิญญาณไปได้เลยและอยู่ให้เป็นสุขเถิด เพราะหนทางสายนี้คงไม่ได้มีไว้สำหรับเธอ

วิธีการทั้ง 112 วิธีนี้มีไว้สำหรับมนุษย์ชาติทั้งมวล
มีไว้สำหรับทุกยุคสมัยที่ได้ล่วงเลยไปแล้ว
ตลอดจนยุคสมัยที่ยังไม่มาถึง
ไม่เคยมีใครแม้แต่คนเดียวที่สามารถพูดได้ว่าทั้ง 112 วิธีการนี้ล้วนไม่มีประโยชน์สำหรับฉัน 
เรื่องนี้เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน
ตันตระยังมีอุบายวิธีเป็นอย่างๆ ไปสำหรับจิตใจทุกชนิดเท่าที่มีอยู่
ยังมีอุบายวิธีอยู่อีกมากสำหรับผู้คนที่ยังมาไม่ถึงนั่นคืออุบายวิธีสำหรับอนาคต
ยังมีอุบายวิธีอยู่อีกมากสำหรับผู้คนที่ได้ล่วงลับไปแล้วนี่คืออุบายวิธีสำหรับอดีต
แต่อย่าได้หวั่นเกรงไปเลย ยังมีวิธีการอีกมากมายสำหรับเธอ เราจะเริ่มตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป

โปรดติดตาม ตอนต่อไป ที่นี่
คัมภีร์แห่งความเร้นลับ 
The book of the secrets 
 (บทที่ 1 หน้า 2-38 )